ในตอนเช้าของทุกวัน ผมมักจะไปกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่น
อยู่บนพื้นดินตรงลานจอดรถด้านหลังโรงแรม เมื่อก่อนจะ
ไม่ชอบเสษใบไม้ที่ร่วงอยู่กับพื้นเหล่านี้มาก แต่ก็ไม่เคยจัด
การอะไรกับมัน ปล่อยจนมันมีเยอะมากๆเข้าก็จ้างคนงาน
มาเก็บเสียทีนึง แต่เดี๋ยวนี้การได้ไปกวาดทุกๆวันทำให้ไม่
ต้องสะสมเป็นกองโตเหมือนที่ผ่านมา และในขณะกวาด
เราก็ได้ฝึกให้ตัวเองมีสติจิตจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำ ขณะ
กวาดก็ให้รู้ว่ากวาด ถ้าจิตเกิดออกนอกคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้
ก็ให้รีบดึงกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ เมื่อมีสติก็จะทำให้เกิด
ปัญญา คนเราต่างกับสัตว์ตรงที่เรามีสติอันก่อให้เกิดปัญญา ไม่ใช่แค่มีความคิดและอารมณ์
เท่านั้น เมื่อมีปัญญาเราก็จะมองว่าใบไม้ที่ร่วงหล่นอยู่นี้ก็เหมือนสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ที่ล้วนแต่
มีเกิดและแตกดับไป ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน จะทำให้ในทุกๆวันเราจะคอยเตือนสติตัวเองอยู่
เสมอ ว่าคนเราต้องมี แก่ เจ็บ ตาย ต้องพลักพรากจากของรัก คนที่รักเป็นธรรมดา ใครทำกรรม
อะไรไว้ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ต้องเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้นตามกฎแห่งกรรม ที่ไม่มีใครจะมาเก่งเกิน
กรรมได้
ในการแข่งขันภายในของพวกเราครั้งนี้ ถ้าเราลองเอาตัวเองมาเป็นคนดูไม่ใช่นักกีฬาที่กำลัง
แข่งกัน เราก็จะเห็นอะไรๆมากมาย ให้เราได้คิดว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นและแตกดับไปเป็นของ
ธรรมดา อย่าไปยึดหรือหลงติดว่าทุกอย่างมันจะอยู่ของมันอย่างนั้น เพราะกีฬามีขึ้นก็ต้องมีลง
มีชนะได้ก็ต้องมีแพ้ได้ ขอแค่ทำใจยอมรับมันไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม
ถึงแม้โลกจะจดจำเราในฐานะผู้ชนะเท่านั้นก็ตาม แต่โลกก็ยังมีที่ให้ยืนสำหรับผู้แพ้ที่ยังมี
ความหวังและกำลังใจเสมอ
สุขสันต์วันที่มีพักเที่ยง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น