KSB The Challenge 2010

KSB The Challenge 2010
ข่าวสาร รูปกิจกรรมต่างๆ พูดคุยกับสมาชิก

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์



ช่วงนี้ผมมักจะได้ยินคำถามบ่อยๆทั้งต่อหน้าและลับหลังว่า เป็นไง
อยู่คนเดียว เหงามั๊ย ทำไม ทำไม และทำไมเยอะมาก ไอ้ที่ตอบได้ก็ตอบ
ที่เลี่ยงได้ก็เลี่ยง ไม่รู้นะ ผมว่าความรู้สึกตอนนี้ ก็เหมือนตอนที่ย้ายบ้าน
ผมเป็นคนที่ย้ายบ้านบ่อยมาก ตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนแรกๆก็อาจจะไม่ชินกับ
ชีวิตในที่ใหม่ พอปรับตัวได้ก็เริ่มชิน ก็ไม่รู้สึกว่าชีวิตขาดอะไรไป เหมือน
เวลาเราทำมือถือหาย ก็อาจจะหงุดหงิดอยู่พัก พอทำใจได้ถึงมีหรือไม่มีมัน
เราก็มีชีวิตอยู่ได้ อย่าไปทุกข์กับมัน ก็อย่างที่พระพุทธเจ้าว่าไว้ว่า ที่ใดมีรัก
ที่นั่นมีทุกข์ เพราะมนุษย์เราเห็นแก่ตัวกันทุกคนนะ ไม่ใช่แค่เรื่องความรัก ทุก
เรื่องเลยแหละ ตั้งแต่การแต่งตัว การทำงาน การกินการนอน เรามักจะเลือกสิ่ง
ที่ดีให้ตัวเองก่อนเสมอ เพราะเรา รักตัวเอง อยากให้ตัวเองดูดี มีความสุข อยาก
ให้ตัวเองสบายใจ การที่เราเลือกที่จะมีคนรัก ก็เพราะเราเชื่อว่า ถ้าคนนั้นรักเรา
แล้วเราจะมีความสุข ถ้าเขาดีกับเรา จริงใจกับเรา เราจะมีความสุข ซึ่งสุดท้าย
มันก็ความสุขของ ตัวเรา นี่แหละ
มาตรฐานของการมีชีวิตคู่มันมีอยู่ข้อเดียว คืออยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ ซึ่งต้อง
สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะขึ้นชื่อว่า "ชีวิตคู่" มันต้องเป็นเรื่องของคู่ การ
ที่บางคู่อยู่กันได้นาน อยู่กันยืด ก็เพราะวิธีที่เขายอมรับกันและกันได้ในความต่าง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฐานะ การศึกษา หน้าตา การงาน ความคิดอ่าน ภูมิหลังเพื่อ
เติมเต็มให้อีกฝ่ายที่ขาดเพราะที่คนเรารักกันไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายสมบูรณ์แบบหรอก
แต่เพราะต่างฝ่ายต่างยอมรับและรักในความไม่สมบูรณ์ของอีกฝ่ายหนึ่งมากกว่า
การเป็นคนที่ไม่สมบูรณ์สองคนมาเติมเต็มกัน ดีกว่าเป็นคนที่สมบูรณ์สองคนที่ไม่
มีที่ว่างให้อีกฝ่ายมาเติม
ก็แค่อยากจะบอกว่า คนเรามาเจอกัน ก็เพื่อจะต้องพลัดพราก ไม่ช้าก็เร็ว ไม่วันใด
ก็วันหนึ่ง ต่างกันก็แค่จะจากเป็นหรือจากตาย ด้วยเหตุดี ด้วยเหตุร้ายเท่านั้นแหละเพราะ
โลกนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีเหตุ มีที่มา เป็นผลกรรม
ที่เราได้ทำไว้....
สุขสันต์วันที่ฝนยังไม่หยุดตก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น